วันที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยต้นแบบการใช้งานและนวัตกรรมในการขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดนราธิวาสนี้ โดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายบุญพาศ รักนุ้ย ประธานในพิธี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทรฺ พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ณ ห้องประชุม ดร.จงรัก พลาศัย ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
โดยมีภาคีเครือข่าย รายนามดังต่อไปนี้
- สำนักงานจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส
- สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
- สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานเกษตรและสหกรณืจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานแรงงานจังหวัดนราธิวาส
- กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส
- สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส
- หอการค้าจังหวัดนราธิวาส
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส
- สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส
โครงการวิจัย เรื่อง ต้นแบบการใช้งานวิจัยและนวัตกรรมในการขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาคนจนกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดนราธิวาส ผ่าน 3 กระบวนการหลัก คือ 1. การค้นหา การสอบทานข้อมูล และสำรวจทุกครัวเรือนคนจน 2. การพัฒนาระบบส่งต่อความช่วยเหลือไปยังภาคีเครือข่าย 3. การออกแบบโครงการช่วยเหลือคนจนอย่างตรงเป้าและสอดคล้องกับบริบทของคนจนเป้าหมาย และการทำข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำที่เชื่อมโยงกับแผนพัฒนายุทธศาสตร์ของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งนับเป็นการร่วมแรง ร่วมใจ ระดมทรัพยากร พัฒนาทุน ทั้ง 5 ด้าน ให้ความช่วยเหลือคนจนอย่างตรงเป้า รวมถึงเสริมสร้างพลังความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาคนจนกลุ่มเป้าหมายทั้งในระยะเร่งด่วน เฉพาะหน้าและการให้การดูแล ช่วยเหลือ ติดตาม อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพด้วยระบบมอนิเตอร์จากฐานข้อมูลในโครงการ เพื่อให้เป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในจังหวัดนราธิวาสต่อไป