กว่า ทศวรรษ แห่งการพัฒนากายภาพ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
มุ่งสร้างสรรค์ พัฒนา และบริหารจัดการระบบกายภาพ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการเรียนการสอน ประสิทธิภาพในการทำงาน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ทัดเทียมระดับสากล
เมื่อมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยการหลอมรวมของสถาบันทางการศึกษาของจังหวัดนราธิวาส คือ วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส วิทยาลัยการอาชีพตากใบ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนราธิวาส เมื่อปี พุทธศักราช 2558 ความรู้สึกแรกของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่ตรงไหนของนราธิวาส
การตั้งมหาวิทยาลัยจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องที่เหลือบากกว่าแรงของนักบริหารที่ชื่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย ผู้ที่จะต้องเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ให้เกิดขึ้นให้ได้ และจะต้องไขข้อสงสัยให้แก่พี่น้องประชาชน ที่ว่ามหาวิทยาลัยจะตั้งที่ใด ใช้พื้นที่ไหน อยู่ตรงไหน ของจังหวัดนราธิวาส เพราะจากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2548 ได้ประกาศในราชกิจานุเบกษาเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 โดยบังคับใช้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2548 โดยหลอมรวมกิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณรายได้ หนี้สิน บุคลากรของสถาบันการศึกษา เข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถทำได้ทันทีในช่วงระยะเวลานั้น แต่ถ้าจะให้มีการจัดหาพื้นที่ ดำเนินการก่อสร้างอาคารต่างๆ ตามโครงสร้างของมหาวิทยาลัย เลยนั้น ก็คงจะยาก แต่ความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะหาพื้นที่ก่อสร้างอาคารต่างๆ ให้เป็นอาณาจักรแห่งการศึกษา ของจังหวัดนราธิวาส มีอย่างแรงกล้า
ตลอดระยะเวลา 10 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้สร้าง อุทยานการศึกษา อาณาจักรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเป็นภูมิสถานแห่งความรู้ ความคิด จิตสำนึก และภูมิปัญญาของสังคม เป็นสถาบันการศึกษาที่พร้อมจะบ่มเพาะเยาวชนให้เป็นบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม และพร้อมจะเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าของสังคมไทยต่อไป
ในความเป็นเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ไม่เพียงแต่ความกว้างขวาง ร่มรื่นและสง่างามเท่านั้น หากแต่บริบทของมหาวิทยาลัย ที่เพียบพร้อมด้วยองค์ประกอบหลากหลาย ที่จะต้องหลอมรวมเอาชีวิต วัฒนธรรมของชุมชน ด้านวิชาการ ด้านสังคม และการบริหารจัดการในที่ดินผลประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนในชุมชนมหาวิทยาลัยนี้ดำเนินต่อไปด้วยการพึ่งตนเองได้ และสร้างความเจริญให้แก่บริบทโดยรอบ ให้มีเอกลักษณ์และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่มีองค์ประกอบสมบูรณ์
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย และการพัฒนาระบบการบริหารด้านกายภาพ มหาวิทยาลัยได้เร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียน อาคารที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมการเรียนการสอน อาคารบริการ และส่วนประกอบอื่น ที่สนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตลอดจนมีการวางแผนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็น รวมถึงระบบสาธารณูปโภค ในการพัฒนาการศึกษาในอนาคตต่อไป โดยได้แบ่งพื้นที่ในการดำเนินก่อสร้าง คือ พื้นที่บริเวณเขตโคกเขือ จำนวน 2 แปลง 1. เนื้อที่ 131 ไร่ 2. เนื้อที่ 156 ไร่ และ พื้นที่บริเวณบ้านบือราเปะ จำนวน 1 แปลง มีเนื้อที่ 212 ไร่
ปี พ.ศ. 2550 ทางมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เร่งดำเนินการจัดทำ “ผังแม่บทมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์” เพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนาด้านกายภาพ พัฒนาทางวิชาการ และเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของฐานข้อมูล วิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ประยุกต์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้สามารถสนับสนุนกระบวนการ การเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการต่อไป
จากนั้นเมื่อทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดทำผังแม่บทเรียบร้อยแล้ว จึงได้เริ่มดำเนินการในการจัดสรรงบประมาณซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในสมัยนั้น สำหรับแผนการดำเนินงานก่อสร้าง ได้เริ่มจากการดำเนินการก่อสร้างในเขตพื้นที่โคกเขือ ในเนื้อที่ 131 ไร่ อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ อาคารเรียนรวม (สถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา) อาคารคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาคารคณะวิทยาการจัดการ อาคารศิลปศาสตร์ และอาคารศูนย์วิทยบริการ อาคารเหล่านี้จะรองรับนักศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการจัดทำแผนการรับศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ แปลงที่ 2 ณ ศูนย์ราชการใหม่ (บ้านบือราเป๊ะ) มีอาคารที่ดำเนินการก่อสร้างคือ อาคารสำนักงานอธิการบดี อาคารคณะแพทยศาสตร์ อาคารคณะพยาบาลศาสตร์ อาคารโรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ อาคารหอประชุมใหญ่ หอพักอาจารย์และเจ้าหน้าที่ อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬามหาวิทยาลัย ที่กล่าวมานั้นขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วสมบูรณ์