การเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้เปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยผ่านโครงการต่างๆ ของหน่วยงานภายในคือ ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และคลินิกเทคโนโลยี โดยในปีงบประมาณ 2566 นี้ มหาวิทยาลัยได้จัดทำโครงการสนับสนุนชุมชนแบบฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น

การดำเนินโครงการจากฝ่ายวิชาการ
คณะเกษตรศาสตร์ได้จัดทำหลักสูตรการผลิตพืชด้วยระบบอัจฉริยะ ซึ่งเป็นหลักสูตร Non degree มีผู้รับผิดชอบหลักสูตรคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ราฮีมา วาแมดีซา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 1,200,000 บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาทถ้วน) จากสำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมของโครงการให้แก่ชุมชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 – พฤษภาคม 2566 มีกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี จำนวน 40 คน การจัดการให้ความรู้เสริมทักษะนี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้รับการอบรมในหลักสูตร ได้มีอาชีพที่มั่นคงและสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน

การดำเนินโครงการจากฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ
โครงการการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการชุมชนประมงพื้นบ้านเกาะปูลาโต๊ะบีซูจังหวัดนราธิวาสเพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากเศรษฐกิจฐานรากสู่มูลค่าเชิงพาณิชย์ มีหัวหน้าโครงการคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมเกียรติ สุทธิยาพิวัฒน์ ได้ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์–มิถุนายน 2566 ด้วยงบประมาณ 3.9 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบนเกาะ ซึ่งมีประชากร 119 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ทำประมงพื้นบ้าน (83 ครัวเรือน) และรับจ้างทั่วไป (36 ครัวเรือน) แม้จะมีคลองตากใบเป็นแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำสำคัญ แต่ในฤดูมรสุมชาวประมงไม่สามารถทำงานได้ ต้องออกไปขายแรงงานนอกเกาะ นอกจากนี้ ปัญหาขยะจากครัวเรือน การเลี้ยงแพะ และธรรมชาติสะสมมานานทำให้การแปรรูปอาหารทะเลขาดสุขอนามัยและส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม โครงการนี้จึงได้สนับสนุนกลุ่มครัวเรือนในหมู่บ้านเกาะปูลาโต๊ะบีซูจำนวน 15 กลุ่ม เพื่อพัฒนาธุรกิจแปรรูปสัตว์น้ำจากการประมงพื้นบ้าน เสริมสร้างรายได้ใหม่และยกระดับเศรษฐกิจชุมชน

โครงการการพัฒนาตัวแบบเชิงธุรกิจและยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนแบบครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากภาวะวิกฤติของกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากอย่างมีส่วนร่วมในจังหวัดนราธิวาส มีหัวหน้าโครงการคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บงกช กมลเปรม ซึ่งได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ระยะเวลาการดำเนินงานเดือนเมษายน 2565 – ตุลาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 3,800,000 บาท (สามล้านแปดแสนบาทถ้วน) สนับสนุนโดยกองทุนส่งเสริม ววน. และหน่วย บพท. เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมของโครงการ โดยมีผู้ประกอบการฐานราก 10 กลุ่ม และภาคีเครือข่าย 13 หน่วยงาน การจัดโครงการนี้ 1) เพื่อพัฒนาตัวแบบเชิงธุรกิจการประกอบการของกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนในจังหวัดนราธิวาส 2) เพื่อสร้างนวัตกรรมการผลิตและการตลาดของผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียน 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาขีดความสามารถเข้าสู่กระบวนแข่งขันด้านการตลาด 4) เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการเงินของกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนในจังหวัดนราธิวาส 5) เพื่อสร้างกลไกและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการขับเคลื่อนตัวแบบเชิงธุรกิจของผู้ประกอบการฐานรากผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนในจังหวัดนราธิวาสสู่แผนยุทธศาสตร์จังหวัด และ 6) เพื่อให้ผู้รับการอบรมในหลักสูตร ได้มีอาชีพที่มั่นคงและสามารถเพิ่มรายได้ให้แกครัวเรือน

โครงการ บพท. แก้จน โดยรองศาสตราจารย์ ดร. วสันต์ พลาศัย ได้ลงพื้นที่เก็บแบบสอบถามครัวเรือนยากจน เกี่ยวกับฐานข้อมูล TPMAP ทั้งข้อมูล Inclusion และ Exclusion จากการคัดกรองของผู้ใหญ่บ้าน และบัณฑิตอาสาที่ลงพื้นที่สำรวจ สอบทาน และสัมภาษณ์ครัวเรือนยากจนตามกลุ่มเป้าหมายในโครงการฯ เพื่อดำเนินการตามแผนของโครงการ และเก็บข้อมูลต่อไป
(https://web.facebook.com/share/p/kvcQuk4NzHD3Q19t/)

นอกจากนี้ผู้วิจัยในทีม นำโดย ผศ.ดร.กรสิริณัฐ โรจนวรรณ์ ผศ.ดร.นรารัตน์ วัฒนาพันธ์ ดร.นุรอามาลี ดีนามอ ผศ.ดร.ชลธิศา รัตนชู และ ผศ.วิยุดา เพชรจิรโชติกุล จัดอบรมการแปรรูปขิงผง 100 % ให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายมีการแปรรูปขิงที่มีคุณภาพ สู่มาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย ตั้งแต่กระบวนการทำความสะอาด การปั่นขิงให้ละเอียด การนำขิงมากรอง เพื่อแยกเนื้อกับน้ำออกจากกัน การเคี่ยว การผึ่งไว้ให้แห้ง และการบรรจุภัณฑ์ โดยมีการบูรณาการความรู้จากทีมนักวิจัยในโครงการฯ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
(https://web.facebook.com/share/p/2A5wMW8a3T8LUNrR/)

คณะนักวิจัยจากโครงการบพท.แก้จน ผักปันสุข นำโดย อาจารย์ ดร.สุไลมาน เจ๊ะอาบู (หัวหน้าโครงการ) ผศ.ดร.ซารีนา สือแม ผศ.ดร.ราฮีมา วาแมดีซา และอาจารย์ ดร.โรสลาวาตี โตะแอ ได้ลงพื้นที่เพื่อฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการผลิตผักดองสามรสโปรไบโอติก โดยวิทยากร คุณสุชาดา อุ่นแก้ว และผู้ช่วย คุณชนกานต์ จันทร์มาตร์ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวน 14 คน เพื่อให้กลุ่มได้นำผลผลิตจากการปลูกผักสวนครัวของกลุ่มครัวเรือนที่ร่วมโครงการมาแปรรูปให้มีมูลค่าสูงขึ้น และสร้างผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ ยกระดับความเป็นอยู่ในลำดับถัดไป อินชาอัลลอฮ พร้อมกันนี้ได้เข้าพบนายฮาฟีซี อูมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกาวะ เพื่อบอกกล่าวจุดประสงค์ของโครงการและขอความร่วมมือกับทางโรงเรียนให้เป็นแหล่งปลูกผักเพื่อป้อนผลผลิตให้กับกลุ่ม นอกจากนักเรียนจะสามารถมีผักรับประทานเพื่อเป็นอาหารกลางวันแล้ว ยังสามารถนำผลผลิตจำหน่ายสร้างรายได้ และสร้างทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่นักเรียนต่อไปได้
(https://web.facebook.com/share/p/HK7UphhqHpgqWicB/)

การดำเนินโครงการจากคลินิกเทคโนโลยี
วันที่ 22-24 มกราคม คลินิกเทคโนโลยีซึ่งมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร หนักแดง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ในกระบวนการเพิ่มมูลค่าผลพลอยได้จากปศุสัตว์ (หนังโค) เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปเพิ่มมูลค่า ในรูปของ แคบวัว ซึ่งผู้ประกอบการขายเนื้อโค ในพื้นที่ มักเอาหนังโค ที่เหลือจากการชำแหละ นำไปฝังกลบ หรือโยนลงไปในบ่อปลา เพื่อให้เน่าเปื่อยเป็นอาหารปลา ด้วยเหตุนี้ ทางคณะทำงานคลินิกเทคโนโลยี ได้สาธิต และฝึกปฏิบัติในกระบวนการเตรียมหนังโค และกระบวนการต่าง ๆ ในการผลิตแคบวัว ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยกรับผลพลอยได้จากปศุสัตว์ ให้เพิ่มมูลค่า และสร้างอาชีพได้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 25 ราย ทั้งนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ สาขาสัตวศาสตร์ และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร หนักแดง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ได้รับคำขอรับบริการให้คำปรึกษา ในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้ประจำฤดูกาล เงาะ ลองกอง มังคุด เพื่อเพิ่มมูลค่า ผลไม้พื้นถิ่นในจังหวัดนราธิวาส เพื่อยกระดับ และเพิ่มมูลค่า ให้กับเกษตรกรผู้ผลิตไม้ผลในจังหวัดนราธิวาส และช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้จากผลไม้ เป็นสินค้าอัตลักษณ์ของพื้นที่ และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจของผลไม้ท้องถิ่นในพื้นที่ โดยทางคณะทำงานคลินิกเทคโนโลยี ได้จัดกิจกรรมอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้กับกลุ่มผู้ขอรับบริการที่มีความสนใจ