งานเทศกาลไทย ณ สวนโยโยงิ กรุงโตเกียว ในวันแรก วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ขณะที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นำผลงานวิจัยและนวัตกรรมมาจัดแสดงที่จุด T21 ผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงประกอบด้วยน้ำผึ้งชันโรงมรกต ขิงผง 100% และผลงานผลิตภัณฑ์จากครามมะนารอ และเครือข่าย #ครามมะนารอ#ครามใต้#ครามน้ำทะเล#ครามนวัทตกร สนับสนุนทุนวิจัยโดย บพท.
ผลการสัมภาษณ์เผยให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอันดับ 1 คือขิง ซึ่งได้รับความชื่นชอบจาก Gen X และ Gen Baby Boomers อันดับ 2 คือผ้าครามและผลิตภัณฑ์ผ้า โดย Gen Y สนใจงานคราฟต์ในขณะที่ Gen X ชื่นชอบกระเป๋าจักสาน ส่วนอันดับ 3 คือน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง หญิงชาวญี่ปุ่นวัย 60 ปีแสดงความคิดเห็นว่า “ครามมีเสน่ห์เหมือนครามญี่ปุ่น สดใส น่าใส่ อยากให้ทำเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ชุดยูกาตะ เป็นต้น” สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับประยุกต์ผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับตลาดญี่ปุ่น
สำหรับขิงผง 100% ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ชาย Gen X วัย 48 ปีกล่าวว่า “ขิงไทยมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นกว่าขิงญี่ปุ่น เหมาะกับการชงน้ำขิงร้อนในฤดูหนาว ผมชอบที่เป็นผงแท้ 100% ไม่มีน้ำตาลหรือสารเคมี” ในขณะที่หญิง Baby Boomer วัย 65 ปีเพิ่มเติมว่า “ขิงช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารดี ผรปกติชงดื่มทุกคืน รสชาติเผ็ดร้อนพอดี ไม่แรงเกินไป แพคเกจเล็กๆ พกง่าย”
เกี่ยวกับน้ำผึ้งชันโรง หญิง Gen Y วัย 32 ปีแสดงความคิดเห็นว่า “ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับน้ำผึ้งญี่ปุ่น หากรู้ว่าเป็นน้ำผึ้งชันโรงที่มีคุณค่าทางยาที่พิเศษ แก้อัลไซเมอร์ และต้านมะเร็ง อาจจะคุ้มค่า แต่ควรมีขนาดเล็กให้ลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อขนาดใหญ่” หญิงวัย 52 ปีที่สนใจน้ำผึ้งเพื่อสุขภาพกล่าวเพิ่มเติมว่า “ราคา 20,000 เยนต่อขวด 250 มล. ค่อนข้างแพง แต่ถ้ามีคุณสมบัติเฉพาะที่ไม่สามารถหาได้ในญี่ปุ่น ก็น่าจะคุ้มค่าสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพ”
นักเรียนมัธยมจากโรงเรียนในชินจุกุ กลุ่มหนึ่งที่มาทัศนศึกษาแสดงความสนใจเป็นพิเศษต่อกระบวนการผลิตครามมะนารอ โดยนักเรียนหญิงวัย 16 ปีกล่าวว่า “เราอยากทราบวิธีการทำครามมะนารอ ต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ต้องหมักนานไหม เหมือนครามไทยกับครามญี่ปุ่น (อินดิโกะ) แต่แตกต่างกันอย่างไร” เพื่อนของเธอเสริมว่า “พวกเราเรียนเรื่องสีธรรมชาติในวิชาเคมี อยากรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงสีจากเขียวเป็นน้ำเงินเกิดจากอะไร มีปฏิกิริยาเคมีอย่างไร” นักเรียนอีกคนถามเพิ่มเติมว่า “ขั้นตอนการผลิตใช้เวลากี่วัน ต้องใช้แรงงานมาก คนท้องถิ่นมีส่วนร่วมอย่างไร” แสดงให้เห็นว่านักเรียนญี่ปุ่นมีความสนใจในกระบวนการผลิตทั้งจากมุมมองเคมีและสังคมศาสตร์ และอยากเรียนรู้ให้มาก
สถิติผู้เยี่ยมชมแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีสัดส่วน 70% และผู้ชาย 30% โดยมีสัญชาติหลากหลายรวมถึงญี่ปุ่น ไทย อเมริกา และอินเดีย พฤติกรรมการซื้อแบ่งตามกลุ่มวัยอย่างชัดเจน โดย Gen Z (Gen M) สนใจซื้อของเล็กน้อยอย่างกระเป๋าและดินสอ Millennials (Gen Y) มุ่งเน้นงานคราฟต์ Gen X ให้ความสำคัญกับกระเป๋าจักสาน ขณะที่ Gen X และ Baby Boomers นิยมซื้อขิง ผ้าพันคอ และผ้าชิ้น ผลลัพธ์นี้ชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีศักยภาพสูงในตลาดญี่ปุ่น และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มวัยต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
#SDG1
#SDG8
#SDG9
#SDG12
#SDG17
#SDGsPNU
#PNUSustainableDevelopmentGoals
#มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์